วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หน่วยที่ 10 โน๊ตบุ๊ค



 สาระสำคัญ
     โน๊ตบุ้ค คือ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาชนิดหนึ่งที่สามารถพกพาไปไหนที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก แต่จะมีราคาสูงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบซีพีเมื่อเทียบกับรุ่นและสมรรถนะการทำงานที่เท่ากัน ในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเอตร์แบบโน๊ตบุ้คได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสมรรถนะการทำงานที่สูงขึ้นเพื่อประกอบกับราคาที่ถูกลง

เรื่องที่จะศึกษา
  • คอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊ค
  • วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง
  • น้ำหนักของโน๊ตบุ๊ค
  • ส่วนประกอบ
  • ซีพียู
  • อุปกรณ์ชี้
  • พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
  • ระบบเสียงและลำโพง
  • แบตเตอรี่
  • ระบบระบายความร้อน
  • ไดร์ฟเก็บข้อมูลต่างๆ 


คอมพิวเตอร์พกพา (Notebook) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย
ปรเภทของคอมพิวเตอร์พกพา 
1. โน๊ตบุ๊ค (Notebook) - เครื่องโน๊ตบุ๊ค มีจะน้ำหนักประมาณ 2.7 - 3.6 กิโลกรัม
2. สับโน๊ตบุ๊ค (Sub-Notebook) - มีน้ำหนัประมาณ 1 - 2.7 กิโลกรัม ความสามารถจะต่ำกว่าโน๊ตบุ๊ค
3. ปาล์มทอป (Palmtop) - มีขนาดใกล้เคียงกับม้วนวีดีโอเทป ใช้สำหรังาน นัดหมาย บันทึกนามบัตร
สิ่งสำคัญของคอมพิวเตอร์พกพาคือ แบตเตอร์รี่ ซึ่งทำให้สามารถใช้งานในที่ใด ๆ ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว แบตเตอร์รี่จะใช้ได้นานเพียง 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการชาร์ฟไฟอยู่เสมอ

ประเภทของแบตเตอร์รี่ 
1. นิกเกิลแคดเมียม (NiCd) - มีอายุการใช้งาน 1 - 2 ชั่วโมง ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว และการชาร์จไฟ ต้องรอให้แบตหมดก่อน และโดยเฉพาะสารแคดเมียมในแบตเตอร์รี่ยังมีอันตรายอีกด้วย
2. นิกเกิลไฮตราย (NiMH) - มีอายุการใช้งาน 2- 3 ชั่วโมง แบตฯ สามารถอัดไฟได้ตลอดเวลาตามต้องการ
3. ลิเธียมไออน - มีอายุการใช้งาน 4 - 5 ชั่วโมง แบตฯมีอายุการใช้งานนานที่สุดและราคาก็แพงด้วย
ประเภทของจอภาพ 
คอมพิวเตอร์พกพาจะใช้จอภาพ LCD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับนาฬิกาดิจิตอล
1. จอโมโนโครมแบบ Passive Matrix - จอภาพนี้แสดงได้เพียงสีโทนขาวดำเท่านั้น
2. จอสีแบบ Passtive Matrix - ราคาจะต่ำ และถ้ามองผิดมุมจะมองภาพไม่เห็นด้วย จอภาพชนิดนี้ยังแบ่งได้อีก 2 แบบคือ Dual-Scan Passive Matrix (ดีกว่า) และ Single-Scan Passive Matrix จอภาพ Passive Matrix เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า STN (Super Twist Nematic)
3. จอสีแบบ Active Matrix - จอภาพนี้จะให้ความสว่างและสีที่ดีกว่า มุมมองก็กว้างกว่าด้วย เหมาะสำหรับงานพรีเซ็นเทชั่น จอภพาแบบนี้ บางครั้งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า TFT (Thin Film Transissor)
การ์ดขยายที่ใช้สำหรับคอมฯแบบพกพา 
เพื่อเพิ่มความสามารถ เรียกว่า PCMCIA (Personal Computer Memory Card Inernational Association) การ์ด PCMCIA นี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับบัตรเครดิต แต่หนากว่า การใช้งานส่วนใหญ่ จะเสียบที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
1. PCMCIA Type I - หนาประมาณ 3.3 มิลลิเมตร ใช้สำหรับเพิ่มหน่วยความจำของเครื่อง
2. PCMCIA Type II - หนาประมาณ 5.0 มิลลิเมตร ใช้เป็นการ์ดโมเด็ม การ์ดเครือข่าย หรือการ์ดเสียง
3. PCMCIA Type III - หนาประมาณ 10.5 มิลลิเมตร ใช้เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ฮาร์ดดิกส์แบบเคลื่อนย้าย

ก่อนจะเลือกซื้อ เพื่อให้ คุณได้ Notebook ที่ถูกใจ มากที่สุด ก่อนอื่น คุณควรจะต้อง ถามใจตัวเอง ก่อนว่า คุณต้องการ Notebook ไปใช้เพื่ออะไร
-เพื่อการพกพา นำ ไปทำงานนอกสถานที่ หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ต้องเกี่ยวข้อง กับการเดินทาง และต้องออกไปทำงาน นอก office อยู่บ่อยครั้ง ที่สำคัญ ยังต้องการ เครื่องมือ ที่จะช่วยงานคุณ ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ เห็นที คุณต้อง ลงทุนสักหน่อย เพราะคุณต้องการ Notebook แบบพกพา ซึ่งมี ลักษณะ บางและเบา เป็นพิเศษ แน่นอนว่า ราคาก็คง ต้องพิเศษ ตามไปด้วย แต่หากคุณ คิดว่า ประสิทธิภาพ ไม่ใช่ประเด็นหลัก ลองหันมาดู Notebook แบบ Handheld ซึ่งจะมีขนาดเล็ก เป็นพิเศษ คงจะน่าสนใจ แถมราคา ยังย่อมเยาว์ กว่าอีกด้วย สิ่งที่ลืมไม่ได้ สำหรับ ผู้ที่กำลังมองหา Notebook เพื่อการพกพา ไปทำงาน นอกสถานที่ นั่นคือ อัตรา การบริโภค พลังงาน ที่ต้องต่ำ รวมไปถึง แบตเตอรี่ ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ Notebook ที่ใช้ชิป Crusoe ที่มีอายุ การใช้งาน นานถึง 6 - 8 ชั่วโมง เลยทีเดียว ( Fujitsu นำรุ่น Lifebook P-1000 ที่ใช้ Crusoe Chip มาวางขาย ในราคา 74,793 บาท )

-เพื่องาน สมบุกสมบัน นอก สถานที่ คุณสมบัติ ของ Notebook ประเภทนี้ นั่นคือ ความสะดวก ในการพกพา ในขณะเดียวกัน ยังต้องมีตัว Case ที่แข็งแรง อย่างเช่น ทำมาจาก แมกนีเซียม อัลลอยด์ เป็นต้น ที่สำคัญ ยังต้องออกแบบ มาเพื่อกันแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน เป็นพิเศษอีกด้วย ดังนั้น ส่วนประกอบ ต่างๆ โดยเฉพาะ Harddisk จึงต้อง เป็นรุ่นพิเศษ ที่มีคุณสมบัติ Shock Resistant ในขณะเดียวกัน หาก Keyboard ยังสามารถ กันน้ำได้ด้วย ก็จะยิ่ง พิเศษและ รองรับ งานประเภทนี้ ได้ดียิ่งขึ้น
- เพื่องาน Presentation หากคุณ กำลังมองหา Notebook ที่ตอบสนอง ความต้องการ ในการ Presentation นอกสถานที่ แล้วล่ะก็ คงต้องหา Notebook ประสิทธิภาพสูง ดีๆ สักตัวหนึ่ง เพื่อให้ งานนำเสนอของคุณ รื่นไหล ไม่ติดขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากการนำเสนอ เป็นภาพเคลื่อนไหว และเป็นแผ่นงานสามมิติ ผ่านโปรแกรม Presentation อย่าง PowerPoint แล้ว คงต้องหวัง พลังจากเครื่องที่สูง พอสมควร แล้วต้องไม่ลืมด้วยว่า ต้องสามารถ พกพาสะดวก มีขนาดที่เบา รวมไปถึง มีระบบมัลติมีเดีย รองรับครบถ้วน ตั้งแต่ Soundcard, Graphic Card ไปจนถึง ลำโพง คุณภาพเยี่ยม

-เพื่อความบันเทิง หาก คุณ เป็นคนหนึ่ง ที่มีเงินเหลือพอ และชอบความเป็นอิสระ และรักสนุก เราคิดว่า Notebook เพื่อความบันเทิง คงเหมาะสม สำหรับคุณ จริงๆ แล้ว Notebook แบบนี้ จัดอยู่ใน ประเภทของ Notebook ระดับ High End เนื่องจาก มีการ ใส่ความสามารถ ต่างๆ เอาไว้ อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ การเล่น MP3, ตอบสนอง การเล่นเกมส์ 3 มิติ ไปจนถึง Drive DVD เพื่อรับชมภาพยนตร์ คุณภาพสูง ซึ่ง เพื่อให้ สามารถ รองรับ การทำงาน ระดับนี้ได้ จึงต้องพึ่งพา CPU ความเร็วสูง ในระดับ Pentium III ตามไปด้วย ซึ่ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ กับอัตรา การบริโภค พลังงาน ในระดับสูง และค่าตัว ที่สูงขึ้น ตามไปด้วย

-เพื่อแทนที่ Desktop จริงๆ แล้ว Notebook ก็สามารถ ทำงานได้ เสมือนหนึ่ง เป็น Desktop PC ตัวหนึ่ง มีผู้คนไม่น้อย ที่เลือกใช้ Notebook แทนที่ Desktop PC เพราะความสะดวก ที่สามารถ ทำงานได้ทั้งที่ทำงาน หรือจะหอบหิ้ว เอางาน ( ใน Notebook ) มาทำต่อที่บ้าน ก็ได้ เราขอแนะนำว่า Notebook ประเภทนี้ ควรมีประสิทธิภาพ ที่สูง สักหน่อย เพื่อความสามารถ ในการรองรับ การทำงาน ได้อย่างเต็มที่ ไม่น้อยหน้า Desktop PC ที่สำคัญ ต้องไม่ลืม ในเรื่องของ Modem / LAN card เพราะคุณจะได้ ต่อ Notebook เข้า LAN ที่ทำงาน หรือต่อเข้ากับ สายโทรศัพท์ เพื่อเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ต ที่บ้านได้ อีกทั้ง เราคิดว่า หากคุณ จะลงทุน ซื้อจอ 17 นิ้ว พร้อม Keyboard กับ เม้าส์ แยกออกมาต่างหาก แล้วต่อ Notebook เข้ากับ Dock Station คงจะดีไม่น้อย เพราะจะช่วยแปลง ให้ Notebook กลายเป็นตัวถัง CPU ที่ต่อเชื่อม กับจอ , คีย์บอร์ด, เม้าส์ เสมือนหนึ่ง นั่งทำงาน อยู่หน้า Desktop PC เลยทีเดียว

เทคนิคการเลือกซื้อ ถ้า ท่านเป็นผู้หนึ่งที่กำลังจะซื้อ Notebook หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อ Notebook ลองศึกษารายละเอียด เบื้องต้นเหล่านี้ดูก่อน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยในการตัดสินใจให้แก่ท่าน เนื่องจากราคาของ Notebook จะมีราคาค่อนข้างสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่อง Desktop ทั่ว ๆ ไป
คุณสมบัติของ Notebook ที่ควรพิจารณา
1. จอภาพ
ควรมีขนาดใหญ่ เพราะยิ่งใหญ่จะยิ่งชัด และควรเป็นจอภาพแบบ TFT
ความละเอียดควรกำหนดได้อย่างน้อย 800 * 600
จำนวนสีที่สามารถกำหนดได้อย่างต่ำควรเป็น 16 บิต
2. แบตเตอรรี่ 
ควรใช้ ลิเธียมไอคอน เพราะว่ามีอายุการใช้งานนานที่สุดในบรรดาแบตเตอรรี่อื่นๆ
3. หน่วยความจำ 
ควรติดตั้งแรมให้มากเท่าที่จะสามารถทำได้ อย่างน้อย 64 MB
4. ฮาร์ดดิกส์ 
อย่างน้อย 5 GB ขึ้นไป เพราะว่าปัจจุบันโปรแกรมส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก
5. ระบบมัลติมีเดีย 
หมายถึง CD-Rom หรือ DVD Drive บวกกับ Sound card ส่วนใหญ่เป็นพื้นฐานไปแล้วสำหรับเครื่องคอมฯ รุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีไว้ เนื่องจากซอร์ฟแวร์ใหม่ ๆ จะบันทึกผ่านทางแผ่น CD
6. โมเด็ม 
ห้ามพลาดทีเดียว ถ้าคุณต้องการเล่น internet และต้องการส่ง fax ผ่านเครื่องคอมฯ
7. เน็ตเวิร์คการ์ด 
สำหรับเชื่อมระบบเครือข่าย ถ้าคุณมีการใช้งานในระบบเครือข่าย (Network) บางยี่ห้อ บางรุ่นก็แถมมาให้ด้วยครับ
8.คุณสมบัติพิเศษ
-สีสัน : หลังจากที่ Imac ประสบความสำเร็จ กับการนำสีสัน มีใช้ ทำให้ ผู้ผลิต PC หลายราย พยายาม ยืมรูปแบบนี้ มาใช้บ้าง เพื่อตอบสนอง ผู้ใช้ ที่ต้องการสีสัน และความสนุกสนาน ในการทำงาน หลังจาก ที่ต้องทน อยู่กับ ตัวเครื่องสีดำ หรือ สีเงินเมทัลลิก มานาน ดูเหมือนว่า Compaq จะเป็นผู้เล่น รายแรกๆ ที่นำเอา สีสันมาใช้ ใน Notebook ของตน ซึ่งจะพบเห็นได้ในรุ่น Presario 1400 แถมยังโดดเด่น ด้วยความสามารถ ในการถอดหน้ากากสี ได้อีกด้วย นอกจาก Compaq แล้ว ทางค่าย Asus ผู้ผลิต Mainboard ชื่อดัง ที่หันมาเอาดี ด้าน Notebook ด้วย ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มาพร้อมกับสีสันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

-Multimedia : มี Notebook มากมาย ที่พยายาม แปลงตัวเอง จากคอมพิวเตอร์ PC ทั่วไป ให้กลายเป็น สถานีความบันเทิง แบบพกพาได้ เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ หากคุณจะพบว่า Notebook ในหลายๆ รุ่น ได้ถูกอัดแน่น ไปด้วยความสามารถ ในการตอบรับ ความบันเทิง ทั้ง ตั้งแต่เล่นแผ่น DVD ไปจนถึง เป็นเครื่องเล่น MP3 หากคุณเอง เป็นคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบ คุณสมบัติเหล่านี้ อย่าลืมดูด้วยว่า ลำโพงที่มาพร้อมกับ Notebook นั้น มีประสิทธิภาพ มากน้อยเพียงใด ง่ายๆ เลยนั่นคือ ให้คุณทดลองฟัง ด้วยตัวคุณเอง เพื่อตัดสินใจ เพราะลำโพง เป็นปัจจัยหลักประการหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความบันเทิง ให้กับ Notebook ของคุณ ทิ้งท้าย ไว้สักนิดว่า หากคุณ ชื่นชอบ คุณสมบัตินี้ล่ะก็ คงไม่เหมาะนัก ที่จะนำไปใช้งาน นอกสถานที่ เพราะอายุการใช้งาน Battery จะสั้นลงถนัดตา จากปกติ 3 - 4 ชั่วโมง เหลือเพียงไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น

-กระเป๋า Notebook : หากคุณ จะหอบหิ้ว Notebook ไปไหนมาไหน โดยไม่มีกระเป๋าใส่ ก็คงไม่ดีนัก ดังนั้น ผู้ขาย จึงมักจะแถมกระเป๋า ใส่ Notebook มาพร้อมด้วย แต่กระเป๋าที่แถมมานี้ ก็ใช่ว่า จะมีคุณภาพที่ดีนัก ส่วนใหญ่แล้ว ไม่แตกต่างจาก กระเป๋าใส่เอกสาร สักเท่าไหร่ สำหรับ กระเป๋า Notebook ที่ดีนั้น ควรจะทำมาจาก วัสดุ ที่แข็งแรง และมีการบุฟองน้ำ หรือวัสดุ ที่ช่วยซับ แรงกระแทก อีกทั้ง ภายในกระเป๋า ควรจะมี ช่องต่างๆ ให้ใส่อุปกรณ์ สำหรับ Notebook ได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ แบตเตอรี่สำรอง, ที่ชาร์จแบต, CD-Drive ไปจนถึง ที่ใส่แผ่น CD ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะ เพื่อคุณจะได้ มีกระเป๋าแบบ All in 1 ที่มีอุปกรณ์ทุกอย่าง ครบอยู่ในตัว

-การบริการ : อย่านึกว่าไม่สำคัญนะครับ เพราะว่า Notebook ไม่เหมือน Desktop PC อันดับแรกเลย นั่นคือ ด้วยราคาค่าตัว ที่สูงกว่ามาก อีกทั้ง อุปกรณ์ภายในต่างๆ ก็มีความซับซ้อน ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ง่ายๆ หรือทำได้ด้วยตนเอง เหมือน PC ทั่วไป ทำให้คุณ ต้องพิจารณาด้วยว่า ผู้ขายของคุณ มีบริการหลังการขาย ที่ดีหรือไม่ คุณจะได้ไม่ต้องมานั่ง เสียใจ ในภายหลัง เราชื่นชอบอย่างมาก กับผู้ให้บริการบางราย ที่จะให้ Notebook เครื่องใหม่ มาให้คุณยืมใช้ในทันที หากไม่สามารถ ซ่อมแซมได้ ภายใน 1 วัน ซึ่งช่วยให้ งานของคุณ ไม่หยุดชะงัก ตามไปด้วย

การเลือกซื้อ 
1. การเลือกซื้อ Notebook ควรกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากการ upgrade จะค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องใช้ชิ้นส่วนเฉพาะรุ่น และราคาชิ้นส่วนก็ค่อนข้างสูงด้วย
2. ราคาของ Notebook เมื่อเทียบคุณสมบัติชิ้นส่วนต่อชิ้นส่วนแล้ว ราคา Notebook จะค่อนข้างสูงกว่า Desktop มาก บางรุ่นสูงถึง 100%
3. อุปกรณ์เสริมสำหรับ Desktop ส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้งานได้กับ Notebook


CPU ทำหน้าที่อะไร

CPU หรือ Central Processing Unit เป็น หัวใจหลักในการประมวลของคอมพิวเตอร์ โดยพื้นฐานแล้วซีพียูทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลเชิงคณิตศาสตร์และข้อมูลเชิง ตรรกะเท่านั้น แต่ทำไมการคำนวณขนาดนี้ ต้องมีการพัฒนาซีพียูกันไม่หยุดหย่อน ย้อนกลับไปปี 1946 คอมพิวเตอร์ยุคแรกที่มีชื่อที่พอจะจำได้ก็คือ ENIVAC นั้นทำงานโดยใช้หลอดไดโอด ซึ่งสถานะการทำงานของหลอดพวกนี้ มีสองอย่าง คือ 1 กับ 0 จะมีค่าเป็น 1 เมื่อมีกระแสไหลผ่านและเป็น 0 เมื่อไม่มีกระแสไหลผ่าน นั่นจึงเป็นเหตุผลให้คอมพิวเตอร์ใช้เลขฐาน 2 ในการคำนวณ ครั้นต่อมาวิทยาการก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ จากหลอดไดโอดก็พัฒนาเป็นทรานซิสเตอร์ และจากทรานซิสเตอร์ก็พัฒนาเป็นวงจรขนาดเล็ก ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ IC และในที่สุดก็พัฒนาเป็น Chip อย่างที่เรารู้จักกันมาจนปัจจุบันนี้
สิ่งที่ผู้ผลิตซีพียูพยายามเพิ่มก็คือ ประสิทธิภาพในการประมวลผลของซีพียู เมื่อกล่าวถึงซีพียูและการประมวลผล สิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจคือภายในซีพียูไม่มีหน่วยเก็บข้อมูลสำหรับเก็บ ข้อมูลปริมาณมากๆ และซีพียูในยุคแรกๆ ก็ไม่มี Cache ด้วยซ้ำไป ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วของซีพียูก็คือ ความเร็วในการประมวลผลและความเร็วในการโอนย้ายข้อมูล ซีพียูในยุคแรกๆ นั้นประมวลผลด้วยความเร็ว 4.77 MHz และมีบัสซีพียู (CPU BUS) ความกว้าง 8 บิต เรียกกันว่าซีพียู 8 บิต (Intel 8080 8088) นั้นก็คือซีพียูเคลื่อนย้ายข้อมูลครั้งละ 1 ไบต์ ยุคต่อมาเป็นซีพียู 16 บิต 32 บิต และ 64 บิต ปัจจุบันโดยเฉพาะซีพียูรุ่นใหม่ๆ เคลื่อนย้ายข้อมูลครั้งละ 128 บิต ในการเคลื่อนย้ายข้อมูลนั้น เกิดขึ้นจากการควบคุมสัญญาณนาฬิกา ซึ่งนับสัญญาณเป็น Clock 1 เช่น ซีพียู 100 MHz หมายความว่าเกิดสัญญาณนาฬิกา 100 ครั้งต่อวินาที


กลไกการทำงานของซีพียู

การทำงานของคอมพิวเตอร์ ใช้หลักการเก็บ คำสั่งไว้ที่หน่วยความจำ ซีพียูอ่านคำสั่งจากหน่วยความจำมาแปลความหมายและกระทำตามเรียงกันไปทีละคำ สั่ง หน้าที่หลักของซีพียู คือควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ ตลอดจนทำการประมวลผล
กลไกการทำงานของซีพียู มีความสลับซับซ้อน ผู้พัฒนาซีพียูได้สร้างกลไกให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยแบ่งการทำงานเป็นส่วน ๆ มีการทำงานแบบขนาน และทำงานเหลื่อมกันเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น





ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วของซีพียู

ความสามารถในการประมวลผล (Processing Power) คือประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานของซีพียู ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดหรือรุ่นของซีพียู เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) โดยทั่วไปจะใช้ซีพียูในตระกูลของอินเทล เช่น Pentium I, Pentium II, Pentium III ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นจะใช้ซีพียูที่ต่างกันออกไป
คอมพิวเตอร์ทำงานด้วยความเร็วที่แตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• รีจิสเตอร์
• หน่วยความจำภายนอก
• สัญญาณนาฬิกา เป็นจังหวะ สัญญาณ (Pulse) ในหนึ่งรอบสัญญาณ (Clock Cycle) คอมพิวเตอร์จะคำนวณหนึ่งครั้ง ส่วนความเร็วของรอบสัญญาณ คือจำนวนรอบของสัญญาณต่อวินาที ซึ่งมีความเร็วมากกว่า 100 ล้านรอบต่อวินาที (100 Megahertz) (แอนนา 2540: 9)
• บัส
• หน่วยความจำแคช
• Passing Math Operation
 พอร์ตต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์
ความเร็วของพอร์ตต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์

--------------------------------------------------------------------------------
ชนิดของพอร์ต                            ความเร็ว
serial port                                115kbits/s (.115Mbits/s)
standard parallel port                               115kBYTES/s (.115MBYTES/s)
USB 1.1                                                    12Mbits/s (1.5MBYTES/s)
USB 2.0                                                     480Mbits/s(60 MBYTES/s)
ECP/EPP parallel port                              3MBYTES/s
IDE                                                              3.3-16.7MBYTES/s
SCSI-1                                                        5MBYTES/s
SCSI-2                                                       10MBYTES/s
Fast Wide SCSI (Wide SCSI)                 20MBYTES/s
Ultra SCSI (SCSI-3, Fast-20, Ultra Narrow)    20MBYTES/s
UltraIDE                                                              33MBYTES/s
Wide Ultra SCSI (Fast Wide 20)                    40MBYTES/s
Ultra2 SCSI                                                      40MBYTES/s
IEEE-1394                                                       100-400Mbits/s (12.5--50MBYTES/s)
Wide Ultra2 SCSI                                             80MBYTES/s
Ultra3 SCSI                                                       80MBYTES/s
Wide Ultra3 SCSI                                           160MBYTES/s
FC-AL Fiber Channel                                     100-400MBYTES/s

ไป รู้จักกับพอร์ตต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่รอบๆ โน้ตบุ๊กครับ เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบเลยว่าพอร์ตต่างๆ มีหน้าที่ไว้ทำอะไร ซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่กำลังจะซื้อโน้ตบุ๊กตัวใหม่ เพราะจะได้ทราบว่าอุปกรณ์ที่เรามีอยู่นั้น ใช้กับโน้ตุบ๊กตัวที่เรากำลังจะซื้อมาใช้ได้หรือไม่ มาทำความรู้จักกับพอร์ต่างๆ กันเลย
serialport
  พอร์ตอนุกรม (Serial Port)

พอร์ตอนุกรมหรือเรียกอีกอย่างว่า COM Port (Communication Port) ลักษณะจะเป็นพอร์ตตัวผู้มีขาสัญญาณ 9 ขา มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 0.1 Mbps ลักษณะการงานของพอร์ตอนุกรมนี้ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ เช่น โมเด็ม เมาส์ เป็นต้น สำหรับในปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้หันไปใช้การเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB ที่มีความเร็วการรับส่งข้อมูลมากกว่า ดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่พบพอร์ตอนุกรมในโน้ตบุ๊คซักเท่าไหร่
parallelport
พอร์ตขนาน (Parallel Port)

พอร์ตขนานเป็นพอร์ตรุ่นเก่า มักใช้ในการเชื่อต่อกับเครื่องปรินเตอร์ จึงเรียกได้อีกอย่างว่า พอร์ตเครื่องพิมพ์ (Printer Port) เช่นเดียวกันกับพอร์ตอนุกรม อุปกรณ์ต่างๆหันไปใช้การเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB ที่มีความเร็วการรับส่งข้อมูลมากกว่า ดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่พบพอร์ตขนานในโน้ตบุ๊คซักเท่าไหร่

ps2
พอร์ต PS/2

เป็นพอร์ตที่ใช้เชื่อต่อกับเมาส์หรือคียบอร์ดภายนอก เนื่องจากคียบอร์ดโน้ตบุ๊คมีความแตกต่างกับคีย์บอร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ซึ่งทำให้ใช้งานไม่คล่องตัว และการใช้ทัชแพดของโน้ตบุ๊คก็สะดวกสู้การใช้เมาส์ไม่ได้ แต่ในปัจจุบันคีย์บอร์ดและเมาส์ของโน้ตบุ๊คที่มีการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB มีขายมากมายตามท้องตลาด ดังนั้นปัจจุบันจึงไม่พบพอร์ตชนิดนี้ในโน้ตบุ๊ค
usb
พอร์ต USB

เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีความจำเป็นกับการงานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เนื่องจากอุปกรณ์ภายนอกหลายๆชนิดนิยมใช้พอร์ตนี้ในการติดต่อสื่อสารกับ คอมพิวเตอร์หรือตัวโน้ตบุ๊ค ตัวอย่างของอุปกรณืที่ใช้พอร์ต USB ได้แก่ เครื่องปรินท์เตอร์ เมาส์ อุปกรณ์เก็บข้อมูลและกล้องดิจิตอล เป็นต้น ความเร็วของการรับส่งข้อมูลผ่านพอร์ต USB ถ้าเป็น USB 1.1 จะมีความเร็วอยู่ที่ 12 Mbps แต่ถ้าเป็นพอร์ตแบบ USB 2.0 แล้วจะมีความเร็วการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 480 Mbps
rj45
พอร์ต RJ45 (LAN Port)

เป็นพอร์ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับสายแลนที่มีการเข้าหัวแบบ RJ45 เพื่อใช้ในการเข้าถึงระบบเครือข่าย ในโน้ตบุคส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะติดตั้งพอร์ต RJ45 มาไว้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

rj11
พอร์ต RJ11 (Modem Port)

เป็นพอร์ตที่มีลักษณะคล้ายกับพอร์ต RJ45 แต่จะมีขนาดเล็กกว่า เนื่องจากตัวพอร์ต RJ11 มีเพียง 4 ขา ขณะที่ พอร์ต RJ45 มีจำนวนขา 8 ขา สำหรับหน้าที่ของพอร์ต RJ11 นั้นไว้สำหรับเชื่อมต่อกับโมเด็มผ่านทางสายโทรศัพท์ที่มีการเข้าหัวแบบ RJ11 เช่นกัน

tvout
พอร์ต S-Video (TV-Out)

เป็นพอร์ตที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับสาย S-Video เพื่อให้แสดงผลาพจากโน้ตบุ๊คไปปรากฏบนจอโทรทัศน์

rjb
พอร์ต RJB

สำหรับต่อเพื่อใช้ในการแสดงผลบนจอภาพภายนอกอื่นๆ ลักษณะการเชื่อมต่อจะเป็นแบบอนาล็อกสามารถต่อได้ทั้งจอแบบ CRT และ LCD

dvi
พอร์ต DVI

เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับจอ LCD หรือเครื่องโปรเจ็คเตอร์ที่อยู่ภายนอก โดยมีการรับส่งข้อมูลแบบดิจิตอล จึงทำให้ไม่ต้องมีการแปลงข้อมูลจากอนาล๊อกเป็นดิจิตอลอีกครั้ง ส่งผลให้คุณภาพของการแสดงผลที่ได้จะมีประสิทธิภาพที่ดีและรวดเร็ว สำหรับพอร์ต DVI จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ DVI-I ที่รองรับทั้งสัญญาณแบบดิจิตอลและอนาล็อก และแบบ DVI-D ที่รองรับได้เพียงสัญญาณดิจิตอลเท่านั้น
firewire
พอร์ต IEEE1394 (Firewire)

พอร์ต IEEE1394 หรือเรียกอีกอย่างว่า “Firewire” ในเครื่อง Mac หรือ “i.Link” ของ Sony เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆที่ต้องการความเร็วในการรับส่ง ข้อมูลสูง เช่น กล้องวีดีโอ ดิจิตอล หรือไดร์ฟสำหรับบันทึกข้อมูลเป็นต้น โดยจะมีความเร็วถึง 400 Mbps แต่ ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนามาตรฐานให้เป็น IEEE1394b ที่เพิ่มความเร็วการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 800 Mbps

pcmcia
สล็อต PCMCIA

ใช้สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆของโน้ตบุ๊ค เช่น การ์ดโมเด็ม การ์ดเมมโมรี่หรือไดร์ฟต่างๆที่เป็นแบบติดตั้งภายนอก โดยจะมีลักษณะเป็นการ์ดหรือที่เรียกว่า PC Card การ์ด PCMCIA จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ Type I: มีความหนาประมาณ 3 มม. ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการ์ดหน่วยความจำต่างๆ, Type II: มีความหนาประมาณ 5 มม. ส่วนใหญ่จะใช้กับการ์ดโมเด็ม การ์ดแลนและการ์ดเสียง, Type III: มีความหนาประมาณ 10.5 มม. ส่วนใหญ่จะใช้กับฮาร์ดดิสก์ การ์ดตัดต่อหรือ การ์ด TV Tuner

xpresscard
สล็อต Expresscard

เป็นการพัฒนาต่อมาจาก PC Card ซึ่งทำให้มีขนาดการ์ดขนาดเล็กลงและความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลเพิ่มมาก ขึ้น อีกทั้งยังใช้พลังงานน้อยกว่า PC Card แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Express/34 ขนาดความกว้าง 34 มม. และ Express/54 ขนาดความกว้าง 54 มม. การเชื่อมต่อกับสล็อต Expresscard นี้ส่วนใหญ่จะใช้กับ การ์ดโมเด็ม การ์ดทีวี​ กราฟฟิกการ์ดสำ​หรับโน้ตบุ๊กเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ​ใน​การเล่นเกม​ หรือ​อาจ​จะ​เป็น​การ์ดเสียง​ ซึ่งสล็อต Expresscard ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกที่ต้องการความรวดเร็วใน การรับส่งในโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆที่กำลังจะออกมาในอนาคต

cardreader
สล็อตอ่านการ์ดหน่วยความจำ (Card reader Slot)

ช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำมีหน้าที่อ่านและเขียนข้อมูลลงการ์ดหน่วยความจำ ชนิดต่างๆ แต่ละชนิดเช่น Memory Card, SD Card หรือ Compact Flash โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆส่วนใหญ่จะมีช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำติดตั้งมาเป็น มาตรฐานแล้ว

irda
ช่องสัญญาณอินฟราเรค (IrDA)

ใช้สำหรับส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิ้ลในการ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สาย เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องปาล์มหรือพ็อกเก็ตพีซี เป็นต้น ความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 4 Mbps แต่จะมีข้อจำกัดก็คืออุปกรณ์ทั้งสองต้องอยู่ห่างกันไม่เกิน 1 ฟุต และไม่สามารถรับส่งสัญญาณผ่านสิ่งกีกขวางได้

อุปกรณ์ชี้ตำแหน่ง (Pointing Devices)

เมาส์ (Mouse)มี หลายขนาดและมีรูปร่างแตกต่างกันไป ที่นิยมใช้มีขนาดเท่ากับฝ่ามือ มีลูกกลมกลิ้งอยู่ด้านล่าง ส่วนด้านบนจะมีปุ่มให้กดจำนวนสอง สาม หรือสี่ปุ่ม แต่ที่นิยมใช้กันมากคือสองปุ่ม ใช้ส่งข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำหลักโดยการเลื่อนเมาส์ให้ลูกกลมด้านล่างหมุน เพื่อเป็นการเลื่อน ตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) บน จอภาพไปยังตำแหน่งที่ต้องการบนจอภาพ ทำให้การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้รวดเร็วกว่าแป้น พิมพ์ ผู้ใช้อาจใช้เมาส์วาดรูป เลือกทางเลือกจากเมนู และเปลี่ยนแปลงหรือย้ายข้อความ เมาส์ยังไม่สามารถใช้ในการป้อนตัวอักษรได้ จึงยังคงต้องใช้คู่กับแป้นพิมพ์ในกรณีที่มีการพิมพ์ตัวอักษร แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ การใช้เมาส์เพียงอย่างเดียวจะทำให้เกิดความผิดพลาดน้อยกว่าการใช้แป้นพิมพ์
เม้าท์รุ่นใหม่ซึ่งมีล้อเลื่อนอยู่ตรงกลาง เพื่อใช้เลื่อนหน้ากระดาษบนจอภาพ

ลูกกลมควบคุม(Track ball),แท่งชี้ควบคุม(Track point),แผ่นรองสัมผัส (Touch pad)อุปกรณ์ ทั้งสามแบบนี้มักพบในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาเพื่อทำหน้าที่แทนเมาส์ เนื่องจากสามารถติดไว้กับตัวเครื่องได้เลย ทำให้พกพาได้สะดวกกว่า และใช้เนื้อที่ในการทำงานน้อยกว่าเมาส์ อุปกรณ์ทั้งสามแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ
ลูกกลมควบคุม จะ เป็นลูกบอลเล็ก ๆ ซึ่งอาจวางอยู่หน้าจอภาพในเนื้อที่ของแป้นพิมพ์ หรือเป็นอุปกรณ์ต่างหากเช่นเดียวกับเมาส์ เมื่อผู้ใช้หมุนลูกบอลก็จะเป็นการเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์ 
แท่งชี้ควบคุม จะ เป็นแท่งพลาสติกเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางแป้นพิมพ์ บังคับโดยใช้นิ้วหัวแม่มือเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่น เดียวกับเมาส์ 
แผ่นรองสัมผัส จะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมที่วางอยู่หน้าแป้นพิมพ์ สามารถใช้นิ้ววาดเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่นเดียวกับเมาส์
(ก) ลูกกลมควบคุม (ข) แท่งชี้ควบคุม (ค) แผ่นรองสัมผัส
  
จอยสติก (Joystick)จอยสติก จะ เป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลง / ซ้ายขวา เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์ แต่จะมีแป้นกดเพิ่มเติมมาจำนวนหนึ่งสำหรับสั่งงานพิเศษ นิยมใช้กับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์หรือควบคุมหุ่นยนต์
จอยสติก
แบบทดสอบ หน่วยที่ 10

1.ข้อใดไม่ใช่คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก
ก. พกพาได้สะดวก                 ข. ราคาสูงกว่าพีซี
ค. ราคาถูกลง                       ง. สมรรถนะสูง

2. วัสดุประเภทใดที่ใช้ทำโน้ตบุ๊กแล้วส่งผลให้ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน
ก. พลาสติกเหนียว                ข. ลูมิเนียมอัลลอย
ค. แมกนีเซียมอัลลอย           ง. กำมะถัน

3. เครื่องโน้ตบุ๊กพร้อมอุปกรณ์มีน้ำหนักรวมประมาณกี่กิโลกรัม?
ก. 1                                        ข. 2
ค. 3                                         ง. 4
4. พอร์ต S-Vedio ทำหน้าที่ใด?
ก. เชื่อมต่อโทรทัศน์                              ข. เชื่อมต่อระหว่างการ์ดแลนด์กับระบบเครือข่าย
ค. เชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลเพื่อนำข้อมูลมาใช้งาน  ง. เชื่อมต่อกับพอร์ต USB

5. Touchpad ใช้แทนอุปกรณ์ใด
ก. จอภาพ                              ข. ลำโพง
ค. คีย์บอร์ด                            ง. เมาส์

6. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของซีพียูที่ใช้กับเครื่องโน้ตบุ๊ก
ก. ใช้พลังงานน้อย                 ข. ราคาแพง
ค. ต้องมีความเร็วสูง            ง. ใช้พลังงานมาก

7 .ซีพียูรุ่นแรก ใช้พลังงานต่ำ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ากี่วัตต์
ก.  5  วัตต์                                      ข. 10 วัตต์
ค. 15 วัตต์                                      ง. 21 วัตต์

8. อุปกรณ์คอมพิวเอตร์ประเภทใด ไม่สามารถต่อผ่านพอร์ต USB ได้
ก. จอภาพ   
ข. เมาส์
ค. เครื่องพิมพ์
ง. สแกนเนอร์
 
9. อุปกรณ์ใดที๋สามารถต่อใช้งานผ่านพอร์ต RJ45
 
 
 
10. พอร์ต IEEE โดยทั่วไปโน๊ตบุ๊กทั่วไปจะติดตั้ง พอร์ตนี้มีความเร็วประมาณเท่าไร
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น